แนะนำ ผ้าม่านแบบใหม่

ผลงานผ้าม่านมาใหม่
info@curtainandbeyond.com
+66 (0) 94 252 4539

Follow Us:

โทร +66 (0) 94 252 4539

บทความผ้าม่าน เทคนิคผ้าม่าน มูลี่ ฉากกั้นห้อง ตกแต่งบ้าน

CURTAIN AND BEYOND ตกแต่งภายในราคาพิเศษ > บทความผ้าม่าน เทคนิคผ้าม่าน มูลี่ ฉากกั้นห้อง ตกแต่งบ้าน

ผ้าม่านจีบเป็นหนึ่งในรูปแบบผ้าม่านที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากให้ความรู้สึกเรียบหรูและช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบให้กับห้อง การคำนวณปริมาณผ้าที่ใช้ในการตัดเย็บผ้าม่านจีบเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ม่านที่สวยงามและลงตัวที่สุด ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีคำนวณผ้าเพื่อตัดเย็บผ้าม่านจีบอย่างละเอียด การวัดขนาดหน้าต่าง การวัดขนาดหน้าต่างอย่างถูกต้องเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการคำนวณปริมาณผ้า โดยต้องคำนึงถึงทั้งความกว้างและความสูงของหน้าต่าง รวมถึงพื้นที่ที่ต้องการให้ผ้าม่านคลุม ความกว้างหน้าต่าง: ใช้สายวัดวัดจากซ้ายไปขวาของกรอบหน้าต่าง หากต้องการให้ผ้าม่านคลุมกว้างกว่าเฟรม ควรเพิ่มความกว้างพิเศษข้างละ 10-20 ซม. ความสูงหน้าต่าง: วัดจากจุดที่ต้องการติดตั้งรางม่านจนถึงตำแหน่งที่ต้องการให้ผ้าม่านสิ้นสุด เช่น ระดับพื้นหรือขอบหน้าต่าง ตัวอย่าง: หากหน้าต่างกว้าง 200 ซม. และสูง 250 ซม. ให้เพิ่มความกว้าง 20 ซม. รวมเป็น 220 ซม. การคำนวณปริมาณผ้า ผ้าม่านจีบต้องการผ้าเพิ่มจากขนาดหน้าต่างเพื่อให้เกิดความพลิ้วไหวและสวยงาม การคำนวณปริมาณผ้าสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้: 1. ความกว้างผ้าม่าน สำหรับม่านจีบ จะต้องใช้ผ้าที่มีความกว้างมากกว่าขนาดหน้าต่างประมาณ 2 - 2.5 เท่า (ขึ้นอยู่กับจำนวนจีบและความหนาของผ้า) หากหน้าต่างกว้าง 220 ซม. และต้องการจีบที่มีความหนาแน่น ให้คูณด้วย 2.5 ความกว้างผ้าที่ต้องใช้ = 220 × 2.5 = 550 ซม. 2. ความสูงผ้าม่าน ความสูงของผ้าม่านต้องเพิ่มจากความสูงของหน้าต่างเพื่อเผื่อพื้นที่เย็บปลายผ้า โดยปกติเพิ่ม 20-30 ซม. ตัวอย่าง: หากความสูงหน้าต่าง 250 ซม. เพิ่มอีก 25 ซม. รวมความสูงผ้าที่ต้องใช้ = 275...

Read More

การติดตั้งผ้าม่านที่สวยงามและพอดีกับหน้าต่างเริ่มต้นที่การวัดขนาดที่แม่นยำ วิธีการวัดที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยให้ได้ผ้าม่านที่ดูดี แต่ยังช่วยลดปัญหาในการติดตั้งและการใช้งานในอนาคต บทความนี้จะแนะนำวิธีการวัดผ้าม่านแบบมืออาชีพที่คุณสามารถทำตามได้ง่าย ๆ   1. เลือกตำแหน่งการติดตั้งผ้าม่าน ก่อนเริ่มวัดขนาด คุณต้องตัดสินใจก่อนว่าจะติดตั้งผ้าม่านแบบ ติดในกรอบหน้าต่าง (Inside Mount) หรือ ติดนอกกรอบหน้าต่าง (Outside Mount) Inside Mount: ผ้าม่านอยู่ภายในกรอบหน้าต่าง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคมินิมอล Outside Mount: ผ้าม่านปิดคลุมพื้นที่นอกกรอบหน้าต่าง เหมาะสำหรับการปิดแสงและเพิ่มความสวยงาม 2. เตรียมอุปกรณ์ สายวัด (ชนิดตลับหรือแบบเลเซอร์) กระดาษและปากกาสำหรับจดบันทึก เก้าอี้หรือบันไดสำหรับวัดบริเวณที่สูง 3. วิธีวัดขนาดสำหรับติดในกรอบหน้าต่าง (Inside Mount) วัดความกว้าง (Width): วัดความกว้างของกรอบหน้าต่างในสามตำแหน่ง (ด้านบน ตรงกลาง และด้านล่าง) แล้วเลือกขนาดที่แคบที่สุดเพื่อให้ผ้าม่านพอดีกับพื้นที่ วัดความสูง (Height): วัดความสูงของกรอบหน้าต่างในสามตำแหน่ง (ด้านซ้าย ตรงกลาง และด้านขวา) เลือกขนาดที่ยาวที่สุดเพื่อให้ผ้าม่านปิดครอบคลุมเต็มพื้นที่ ลบระยะเผื่อ: ลดความกว้าง 0.5 - 1 ซม. เพื่อให้ติดตั้งผ้าม่านได้ง่าย 4. วิธีวัดขนาดสำหรับติดนอกกรอบหน้าต่าง (Outside Mount) วัดความกว้าง (Width): เพิ่มความกว้างของกรอบหน้าต่างด้านละ 10-15 ซม. หรือมากกว่า หากต้องการให้ผ้าม่านครอบคลุมพื้นที่แสงรอบด้าน วัดความสูง (Height): เริ่มต้นวัดจากจุดที่ต้องการติดตั้งรางผ้าม่าน (เหนือกรอบหน้าต่างประมาณ 10 ซม.) ไปจนถึงจุดที่ต้องการให้ผ้าม่านหยุด (เช่น ใกล้พื้นหรือตรงกลางผนัง) 5....

Read More

1. เลือกชนิดของผ้าม่านที่ตอบโจทย์ ผ้าม่านแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละห้อง เช่น ผ้าดิมเอ้าท์ (Dim Out) และ ผ้าแบคเอาท์ (Blackout) ที่เป็นที่นิยม ผ้าดิมเอ้าท์มีลักษณะเด่นคือช่วยให้แสงผ่านเข้ามาได้เล็กน้อย เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการแสงธรรมชาติแต่ไม่ต้องการแสงที่แรงเกินไป ส่วนผ้าแบคเอาท์จะป้องกันแสงได้เกือบ 100% ทำให้ห้องมืดสนิท เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องที่ต้องการการพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและมืด . 2. รู้จักขนาดหน้ากว้างของผ้า ขนาดหน้ากว้างของผ้าม่านมีผลต่อการตัดเย็บและค่าใช้จ่าย เช่น ผ้าที่มีหน้ากว้างมาตรฐาน 1.5 เมตร หรือ 2.8 เมตรขึ้นไป ผ้าหน้ากว้างจะช่วยลดจำนวนผ้าที่ต้องใช้ในการเย็บต่อผืน และยังทำให้เกิดรอยต่อระหว่างผ้าน้อยลง ส่งผลให้การติดตั้งผ้าม่านออกมาดูเรียบเนียนสวยงามกว่า และยังประหยัดงบประมาณในการตัดเย็บได้อีกด้วย ดังนั้น หากต้องการลดค่าใช้จ่ายและให้ห้องดูสวยงาม ควรพิจารณาเลือกผ้าที่มีขนาดหน้ากว้างให้เหมาะสม . 3. มองหาโปรโมชั่นที่คุ้มค่า การซื้อผ้าม่านในช่วงที่มีโปรโมชั่นสามารถช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก ควรมองหาร้านที่มีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น การลดราคาสูงสุดถึง 30-50% หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า โปรโมชั่นเหล่านี้มักมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ผ้าม่านเกรดมาตรฐานจนถึงเกรดพรีเมียม การเลือกซื้อในช่วงโปรโมชั่นจึงเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยประหยัดเงินได้อย่างมาก . 4. เลือกชนิดและรูปแบบของผ้าม่านที่เข้ากับสไตล์การตกแต่ง ผ้าม่านมีหลายรูปแบบที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น ม่านจีบ ซึ่งให้ความรู้สึกเรียบหรูเหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก, ม่านพับ ที่เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่น้อยใช้ผ้าน้อยราคาย่อมที่จะย่อมเยาว์กว่า  หรือ ม่านตาไก่ ที่เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นและดูโปร่งโล่ง การเลือกชนิดผ้าม่านที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งจะช่วยเสริมบรรยากาศของห้องได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ควรพิจารณาว่ารูปแบบใดเหมาะกับการใช้งานและเข้ากับสไตล์ของบ้านมากที่สุด . การเข้าใจเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกผ้าม่านที่ดีและประหยัดงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแค่ได้สินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ห้องของคุณดูสวยงามและใช้งานได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย...

Read More

ในปี 2024 การออกแบบตกแต่งภายในได้พัฒนาไปอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี AI ที่เข้ามาช่วยในการออกแบบและตกแต่งพื้นที่ โดยเฉพาะในส่วนของผ้าม่าน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศและการใช้งานของห้องได้อย่างมีนัยสำคัญ 1. การวิเคราะห์การใช้งานและความต้องการ AI มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้งานอย่างละเอียด ซึ่งช่วยให้ผู้จัดการออกแบบสามารถเข้าใจว่าผู้ใช้งานต้องการผ้าม่านที่มีฟังก์ชันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันแสง ความเป็นส่วนตัว หรือการตกแต่งให้สวยงาม นอกจากนี้ AI ยังสามารถนำเสนอทางเลือกที่เหมาะสมตามสไตล์ที่ผู้ใช้งานชอบได้ 2. การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ AI ช่วยสร้างแบบจำลอง 3 มิติของผ้าม่านในห้องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถเห็นภาพการตกแต่งภายในที่มีผ้าม่านในสไตล์ต่างๆ ได้ในเวลาอันสั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองเลือกผ้าม่านที่เหมาะกับการตกแต่งห้องจริงก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ 3. การเลือกวัสดุอัจฉริยะ AI ยังสามารถช่วยในการเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับผ้าม่าน โดยพิจารณาจากข้อมูลทางเทคนิค เช่น ความทนทานต่อแสง UV ความสามารถในการป้องกันเสียง และคุณสมบัติในการทำความสะอาด โดยผู้ใช้งานจะได้รับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวัสดุที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดตามความต้องการของตน 4. การออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การใช้ AI ในการออกแบบผ้าม่านยังสามารถช่วยในการเลือกวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมากกว่านั้น AI ยังสามารถคำนวณความเข้ากันได้ของวัสดุ ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถมั่นใจได้ว่า การเลือกผ้าม่านนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 5. การปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเทรนด์ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์การออกแบบตกแต่งภายในที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสี รูปทรง หรือวัสดุต่างๆ โดยการรวมข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้สามารถเสนอแนวทางการออกแบบผ้าม่านที่สะท้อนถึงความนิยมในขณะนั้น 6. การติดตั้งและบริการหลังการขาย นอกจากการออกแบบแล้ว AI ยังสามารถช่วยในการวางแผนและจัดการการติดตั้งผ้าม่าน รวมถึงบริการหลังการขาย เช่น การแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าม่าน สรุปแล้ว การใช้ AI ในการออกแบบตกแต่งภายในนั้นไม่เพียงแต่ทำให้การออกแบบผ้าม่านมีความรวดเร็วและง่ายขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่น่าพอใจ...

Read More
แนวทางเลือกผ้าม่าน

แนวทางเลือกผ้าม่าน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ การเลือกผ้าม่าน นั้นต้องขอบอกเลยว่าไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวเสมอไป ขึ้นอยู่กับยุคสมัย ขึ้นอยู่กับความพอใจ  สิ่งที่สำคัญคือการระวังเรื่องการใช้สีเท่านั้น การใช้สีเป็นสิ่งที่เราต้องรู้ เพราะสีมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก ซึ่งสามารถเปลี่ยนอารมณ์มนุยษ์ได้ ข้อคิดและวิธีการเลือกผ้าม่านนี้เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น เป็นการแนะนำอย่างเป็นกลางๆ การใช้สีเข้ม หรือใช้ผ้าม่านลายใหญ่ สามารถทำได้ แต่ในการตัดสินใจเราอาจต้องปรึกษาผู้รู้  หรือปรึกษานักออกแบบที่มีความชำนาญ เพื่อให้ได้ผ้าม่านตามที่เราใฝ่ฝัน ให้คุ้มค่ากับปัจจัยที่เราต้องเสียไป ในเรื่องของเนื้อผ้า  ผ้าม่านไม่จำเป็นต้องเป็นผ้าที่มีเนื้อหนาเสมอไป ความสำคัญจะอยู่ที่โครงสร้างของผ้า วัตถุดิบ และเทคนิคการทอ ผ้าที่หนา อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจ บางครั้งแสงผ่านและมองทะลุได้ แต่กลับกัน ผ้าที่บางอาจไม่สามารถมองผ่านได้ เหตุผลคือการใช้เส้นใยหรือเส้นด้ายที่เล็กกว่า  มีความหนาแน่นมากกว่า ผ่านกระบวนการทอตามคุณลักษณะ ทำให้ได้ผ้าม่านที่เป็นไปตามความต้องการเช่น การทิ้งตัว ความพริ้วไหว ความสวยงามได้รูปทรง ขณะเดียวกันผ้าที่มีเนื้อหนากว่า ถึงแม้จะมีน้ำหนักมาก แต่อาจไม่มีคุณสมบัติดังที่กล่าว อันเป็นเหตุผลที่คุณสมบัติของผ้าที่หนาอาจสู้ผ้าที่บางกว่าไม่ได้ ฉะนั้นผ้าที่มีน้ำหนัก การทิ้งตัว ไม่ได้ขึ้นอยู่ความหนาของผ้าม่านเสมอไป ดังนั้นการเลือกใช้ผ้าม่าน ต้องดูที่ความเหมาะสม เช่นผ้าที่มีเนื้อบาง ก็จะเหมาะกับผ้าม่านลักษณะที่ต้องการความพริ้วไหว มีการทิ้งตัวอย่างเป็นรูปทรง เช่น ม่านหลุยส์,ม่านจีบ,หรือ ม่านรูปแบบอื่นที่มีลักษณะไกล้เคียงกัน ส่วนผ้าที่หนามีเนื้อค่อนข้างแข็ง ก็จะเหมาะกับพวกม่านพับ ม่านรูปทรงอื่นที่ไม่ต้องการความพริ้วไหว หรือทำเป็นผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น การเลือกผ้าม่าน บางทีอาจเป็นเรื่องอยากสำหรับบางคน ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เช่นนั้นซะทีเดียว ถ้ามีความเข้าใจโดยพื้นฐานเรื่องสีอยู่บ้าง หรือไม่ก็จากประสบการณ์ที่เคยได้สัมผัส ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ๆเราเคยผ่านตา เช่นบ้านตัวอย่างตามโครงการ หรือบ้านที่เราเคยได้เข้าไปติดต่อ อาจเป็นบ้านเพื่อน คนรู้จัก หรือไม่ก็จากหนังสือ นิตยาสาร อินเตอร์เน็ต หรือในร้านผ้าม่านเอง นั้นก็คือพื้นฐานเบื้องต้น ความรู้สึกต่างๆ เราสามารถสัมผัสได้ในระดับหนึ่ง มองออกได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เราได้มีพื้นฐานเริ่มต้นไม่มากก็น้อย...

Read More
การเลือกผ้าม่านห้อง

ผ้าม่านแบบไหนเหมาะกับห้องในบ้านคุณ คุณกำลังมองหาผ้าม่านอยู่หรือเปล่าคุณเคยรู้หรือไม่ว่าบ้านของคุณต้องมีผ้าม่านเพราะมีข้อดีหลายอย่างมากอีกอย่างช่วยลดความร้อนของตัวบ้านได้อีกด้วย แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าห้องแต่ละห้องของคุณเหมาะกับผ้าม่านแบบใหนเพราะม่านมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป ผมเชื่อว่าคุณคงไม่อยากให้ห้องนอนที่แสนสบายของคุณดูเหมือนเป็นห้องประชุมหรอกจริงไหมครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละห้องในบ้านของเราเหมาะกับม่านประเภทใหนบ้าง ในปัจจุบัน สีที่ได้รับความนิยม ได้แก่สีที่ดูอบอุ่น คือสีโทน สีน้ำตาล สีเบจ สีครีม สีเทา หรือสีที่มองแล้วสบายตา   การเลือกผ้าม่านห้องรับแขก บางทีห้องรับแขกอาจจะเป็นห้องที่เราใช้เวลากับมันมากพอๆกับห้องนอนก็ได้เช่นดูทีวีนั่งเล่นเกมส์หรือสังสรรค์กับเพื่อนๆยันเช้าดังนั้นผมแนะนำให้ติดตั้งม่านแบบราว 2 ชั้นที่สามารถแขวนม่านได้ 2 ประเภท คือม่าโปร่งกับม่านทึบเพื่อความสะดวกในการใช้งานสำหรับม่านโปร่งจะไม่ทึบแสงทำให้แสงผ่านเข้ามาในตัวม่านได้ในกรณีที่เรานั่งอ่านหนังสือหรือต้องการให้ในห้องมีแสงโดยไม่อยากเปิดไฟก็สามารถที่จะใช้เพื่อเป็นประโยชน์ได้ดี ส่วนม่านทึบ หรือม่านกึ่งทึบ ที่กันแสงแดดได้มาก มีลวดลายในเนื้อผ้าบ้างเล็กน้อย เช่น ลายดอกไม้ดอกเล็กที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งนี้ก็เพื่อบรรยากาศที่รู้สึกผ่อนคลายยามนั่งพักผ่อน นอกจากนี้แล้วเพื่อความสวยงามม่านห้องรับแขกอาจเป็นม่านที่ทำจากเนื้อผ้าพิเศษที่มีความหรูหราอย่างผ้าซาติน ผ้าไหม ผ้ากำมะหยี่   เลือกผ้าม่านห้องครัว ผ้าม่านสำหรับห้องครัวควรเลือกใช้ผ้าที่มีน้ำหนักเบาเนื้อผ้าบางๆซึ่งง่ายต่อการซักล้างทำความสะอาดและด้วยคุณสมบัติที่บางจะทำให้มีอากาศถ่ายเทระหว่างห้องครัวกับห้องอื่นๆ ทำให้ห้องดูสว่างเพราะในห้องครัวต้องมีแสงเข้ามาไม่งั้นการที่เรากำลังใช้ของมีคมอยู่อาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ และในการที่เรากำลังทำอาหารอาจมีเขม่าควันที่เกิดจากการเผาไหม้ไปติดอยู่ในตัวผ้าทำให้อาจต้องทำความสะอาดอยู่บ่อยครั้งการเลือกเลือผ้าม่านควรดูให้ดีว่าสามารถทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่จะได้ไม่ยุ่งยากตอนซักเพราะแห้งได้ง่ายกว่าม่านแบบหนาๆนั่นเอง   เลือกม่านห้องนอน ห้องนอนคือพื้นที่ความเป็นส่วนตัวที่เราจะใช้งานบ่อยในช่วงเวลานอนเท่านั้นหรือในช่วงที่ไม่มีแสงแล้ว แต่ทำไมต้องมีละนั่นก็เพราะเราคงไม่อยากให้แสงมาส่องที่หน้าในตอนเช้าหรอกจริงไหมครับการมีม่านไว้ดีตรงที่เมื่อเราตื่นมาพร้อมสูดอากาศภายนอกก็แค่เปิดม่านแล้วรับอากาศแบบเต็มๆ ส่วนในเรื่องสีม่านในห้องนอน ควรเป็นสีที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่าง สีฟ้าอ่อน สีขาว สีเหลืองอ่อน สีชมพู สีครีม หรือสีที่เหมาะสมกับสีผนังห้อง แนะนำให้เป็นสีที่ดูแล้วสบายตาไม่ควรเลือกสีแดงและสีดำ เพราะสีแดงเป็นสีที่ดูร้อนเกินไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ สีดำจะทำให้ห้องดูหม่นๆไม่สวยแต่ถ้าจะเลือกก็ห้ามกันไม่ได้ครับ และสุดท้ายคือควรเลือกม่านที่ขนาๆหน่อยเพราะหากบางวันเราอยากตื่นสายๆ ไม่อยากให้มีแสงรบกวน ม่านหนาๆจะช่วยไม่ให้แสงผ่านเข้ามาในห้องได้ดีทีเดียว   เลือกม่านห้องน้ำ ความชื้นในห้องน้ำ มักทำให้ผ้าม่านที่ใช้วัสดุหลักเช่นเนื้อผ้ามีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ในขณะเดียวกันหากมีละอองน้ำกระเซ็นมาโดนก็ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวควรเลือกใช้มูลี่และม่านแบบพลาสติกเพื่อช่วยบังแสงและช่วยกั้นพื้นที่ให้ดูเป็นสัดส่วน เหมาะสมสำหรับห้องน้ำที่ควรให้มีแสงแดดส่องลอดเข้ามาประมาณ 80% ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยลดความอับชื้น   ดังนั้นคุณจะเห็นได้ว่าข้อที่ต้องสำรวจความต้องการของคุณก่อนเลือกซื้อผ้าม่าน มีความสำคัญกับบ้านแต่ม่านบางประเภทก็ไม่ได้เหมาะกับห้องทุกห้องในบ้านทำให้การเลือกซื้ออาจต้องคิดหน้าคิดหลังกันหน่อยการความศึกษาดูข้อดีข้อเสียให้ดีด้วยครับ  ...

Read More
เทคนิคการเลือกใช้ผ้าม่าน

การเลือกผ้าม่าน ด้วยความเปลี่ยนแปลงตามสมัยนิยม ความรู้ความเข้าใจ ต่างหลากหลาย ความชอบ สไตล์ของแต่ละคน สถานที่และความเหมาะสม การเลือกผ้าม่านอาจไม่มีกฏเกรณ์ตายตัวเสมอไป แต่มีแนวทางเป็นการแนะนำสำหรับผู้ที่ยังเริ่มต้นไม้ถูกผ้าม่านทุกวันนี้ อาจต่างจากเมื่อก่อน ทั้งในด้านของรูปแบบ และสีสัน สมัยก่อนคนส่วนใหญ่มักนิยมเลือกผ้าม่านที่มีโทนสีเข้มและสีสด เช่นสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีส้ม เหตุผลเพระกล้วผ้าซีดและเก่าเร็ว และเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า ต้องกันแดด กันแสงได้ดี โดยเชื่อว่าสีเข็มจะทำให้ผ้าดูซีดน้อยกว่าผ้าสีอ่อนเมื่อใช้ไประยะเวลานานๆเนื้อผ้าต้องเป็นหนามากๆ  เชื่อว่าจะได้ความทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่าคุ้มราคากว่า นั้นคือความคิดและค่านิยมในอดีตที่ผ่านมา  ต่อมาแนวคิดนั้นเริ่มเปลี่ยน เนื่องจากในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มีความเข้าใจในเรื่องของเนื้อผ้าและโทนสีมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของสี ซึ่งสีนั้นมีอิทธิพล และมีผลต่ออารมย์ความรู้สึกของเรา  การเลือกผ้าม่านจึงมีความลงตัว มีสวยงามขึ้น ทำให้ได้ผ้าม่านที่มีความแตกต่างจากเมื่อก่อน ได้บรรยากาศ ได้อารมย์ ความรู้สึกที่ดีกว่าเดิม   วิธีเลือกผ้าม่าน ให้เราเลือกผ้าม่านสีโทนเดียวกับห้องจะดีที่สุด ถ้าผนังสีขาว ก็ต้องดูว่าเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งห้องมีสีอะไรบ้าง ก็ให้เราเลือกโทนไกล้เคียง อาจอ่อนหรือเข้มกว่าบ้างนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ขึ้นอยู่กับสีเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก ต้องลองเทียบสี วิธีการคือนำตัวอย่างผ้าม่านมาวางไกล้ๆ กับเฟอร์นิเจอร์เปรียบเทียบดูว่าสีไหนกลมกลืนที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นโทนเดียวกันอาจตัดกันก็ได้  แต่ดูแล้วต้องไปกันได้ กรณีเลือกผ้าม่านก่อนเฟอร์นิเจอร์ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเราจะสั่งเฟอร์นิเจอร์สีอะไร ก็ควรเลือกผ้าม่านสีที่เป็นกลางๆ สามารถเข้ากับสีอื่นได้หลายๆสี เช่น สีเบจ สีครีม น้ำตาลอ่อน วนิลา ออฟไวท์ เพราะเมื่อนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาภายหลังจะได้ไม่ขัดกัน เนื่องจากสีเหล่านี้สามารถเข้ากับสีอะไรก็ได้   การเลือกผ้าม่านในแต่ละห้อง การเลือกผ้าม่านห้องรับแขก ห้องรับแขกเป็นห้องที่ใช้งานบ่อยสำหรับทุกคนในบ้าน และเป็นห้องที่ต้องใช้ต้อนรับแขกหรือผู้มาติดต่อเยี่ยมเยือน การตกแต่งที่สวยงามลงตัว เป็นการบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าบ้านในการมีแนวคิดตกแต่ง ก็คงต้องเน้นให้มากเป็นพิเศษ เราสามารถเลือกผ้าม่านที่มีลายบ้างได้  และสีของผ้าม่านก็อาจเข้มขึ้นมาตามบรรยากาศสภาพแวดล้อมเช่นถ้าห้องที่กว้างและสูงโปร่ง มีการจัดวางเฟอร์เจอร์ไม่แน่นมาก ก็ไม่มีปัญหาสำหรับการใช้ผ้าม่านที่มีโทนสีเข้มหรือแบบที่มีลาย แต่ถ้าห้องแคบโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวหลังเล็ก หรือเทาว์เฮาส์ ก็ต้องดูที่ความเหมาะสม ลองจินนาการตอนที่ผ้าม่านเสร็จเรีบบร้อยว่าจะออกมาในลักษณะใดข้อสำคัญต้องไม่ลืมว่าผ้าม่านนั้นไม่ได้สวยอยู่ที่ลายผ้า ผ้าม่านจะสวยที่รูปแบบดังที่กล่าวมาข้างต้น...

Read More
การเลือกซื้อผ้าม่าน

ประเภทผ้าม่านที่คุณต้องรู้ก่อนการเลือกซื้อ ผ้าม่านนั้นสำคัญต่อบ้านเพราะบ้านจำเป็นต้องมีหน้าต่างในการปล่อยให้อากาศไหลเวียนผ่านตัวบ้านเพื่อให้ออกซิเจนไหลเวียนเข้ามาแต่แสงที่จะผ่านเข้ามานั้นก็จะนำไอร้อนจากแดดเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้ผ้าม่านต้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อดูดซับไอร้อนของแดดและช่วยกรองแสงที่จะผ่านเข้ามา หากใครที่กำลังมีแผนที่จะซื้อผ้าม่านไปแต่งบ้านควรศึกษาเรื่องคุณสมบัติและจุดเด่นให้ดี ซึ่งเรามี 3 แบบผ้าม่านมานำเสนอดังนี้   ม่านจีบ ผ้าม่านจีบสามารถนำไปแต่งบ้าน แต่งคอนโด และในทุกสถานที่ได้อย่างลงตัว ไม่เพียงแค่รูปแบบที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ดูดี แต่ม่านจีบยังสวยงาม ลงตัว โดยมีเอกลักษณ์ที่การจับหัวม่านด้านบน เป็นจีบเล็กๆ 3 จีบ ทำให้ดูสวยงามหากนึกถึงม่าน สิ่งที่เพื่อนๆ จะนึกถึงขึ้นมาได้ก่อนเป็นลำดับแรกคงหนีไม่พ้น ม่านจีบ ใช่ไหมเอ่ย? เพราะม่านจีบถือเป็นแบบม่านที่ให้ความรู้สึกคลาสสิค และเป็นแบบม่านมาตรฐานโดยผ่านจีบจะมีด้วยกัน 2 ประเภทดังนี้   [caption id="attachment_7592" align="aligncenter" width="800"] ตัวอย่างภาพ: ม่านตาไก่[/caption]   ม่านกันแสง เนื้อม่านที่ผลิตออกมาขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะผลิตจากผ้าใยสังเคราะห์ เช่น Polyester ด้วยลักษณะการทอม่านกันแสงแบบพิเศษที่มีเส้นด้ายสีดำ ทำให้ม่านกันแสงแบบ Dimout สามารถช่วยกันแสงที่ส่องเข้ามาในห้องได้มากถึง 85-97% (สีของม่านจะมีผลต่อปริมาณแสงที่ส่องผ่านเข้ามาในห้องโดยตรง) แต่สีของม่านชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นสีพื้น ด้านลวดลายและลูกเล่นต่างๆ บนตัวม่านจะมีน้อยกว่าม่านแบบธรรมดามาก   ม่านธรรมดา ลักษณะของเนื้อผ้าที่หาได้เยอะมากตามร้านทั่วไปเพราะผลิตจากผ้าฝ้าย เช่น ผ้า Cotton เนื้อม่านชนิดนี้ จึงมีแสงทะลุผ่านได้ค่อนข้างเยอะ ม่านแบบธรรมดาจะโดดเด่นด้านลวดลายและสีสันบนตัวผ้า ที่หลากหลายมากกว่าม่านกันแสงแบบ Dimout แต่ประโยชน์ด้านการกันแสง จะสู้ม่านแบบกันแสงโดยตรงไม่ได้   ม่านตาไก่ เอกลักษณ์เด่นคือตรงหัวผ้าจะทำการเจาะให้เป็นรูเพื่อใส่ห่วงตาไก่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่กว้างเพื่อดึงลักษณะเด่นให้ดูน่าสนใจ สอดเข้ากับรางม่านเหมาะอย่างยิ่งกับบ้านและคอนโด ม่านตาไก่เป็นม่านค่อนข้างได้รับความนิยมกลุ่มงานบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม เป็นทางเลือกของความทันสมัยไม่ตกยุค ลักษณะเด่นคือ อุปกรณ์ม่านตาไก่แบบห่วงยึดประกบตัวผ้าสองด้าน ทั้งหน้าและหลัง จึงทำให้ผ่าม่านมีน้ำหนักเบาเมื่อยึดติดติดตั้งกับผนังบ้าน และด้วยดีไซน์ที่ใช้ห่วงและรางโชว์ที่สวยงาม  จึงเหมาะสำหรับบ้านของคนสมัยและตกแต่งบ้านได้หลายหลายเอกลักษณ์ อีกทั้งยังสามารถติดเป็นม่าน 2 ชั้น คือโปร่งแสงก็ได้จะทึบก็ได้ตามความต้องการ   [caption id="attachment_7593"...

Read More

1.เหตุที่เกิดบ่อย "หน้าต่าง" นอกจากเป็นช่องให้แสงและลมเข้าสู่ภายในบ้านแล้ว หน้าต่างยังเป็นจุดอันตรายจุดหนึ่งในบ้านเลยทีเดียว โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก บางครั้งอาจเผลอซนจนตกลงไป หรือบางครั้งหากเกิดลมแรงๆก็อาจพัดให้หน้าต่างเปิด-ปิดเกิดอันตรายได้เช่นกัน [caption id="attachment_7508" align="aligncenter" width="600"] กันชนยางหรือแม่เหล็กช่วยป้องกันบานเลื่อนกระแทกกับวงกบได้ โดยหากเลื่อนเปิด-ปิดแรงๆ ควรติดตั้งตัวหยุดไว้ในวงกบด้วย[/caption]     [caption id="attachment_7509" align="aligncenter" width="450"] หน้าต่างบานกระทุ้งหรือบานเปิดควรติดตัวล็อกไว้ทุกบาน ไม่อย่างนั้นหากเกิดลมแรงก็อาจมีโอกาสตีหน้าต่างให้กระแทกกับวงกบแรงๆจนเกิดความเสียหายได้[/caption]   [caption id="attachment_7511" align="aligncenter" width="816"] สำหรับหน้าต่างบานเลื่อน หรือบานเปิดเต็มถึงพื้นของบ้านชั้นสองขึ้นไป ควรกั้นราวกันตกให้สูงสักประมาณ 90-110 เซนติเมตร เพื่อความ[/caption]     2.เหตุเกิดบ่อยที่ "ประตู" ควรเลือกใช้ประตูบานเปิด ประตูบานเลื่อน และประตูบานเฟี้ยมที่กั้นทางเข้า-ออกภายในบ้าน ให้เหมาะกับพื้นที่ ซึ่งแต่ละบานหนักเป็นสิบๆกิโลกรัม หากติดตั้งไม่ดีอาจใช้งานลำบากและเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็นโดนประตูหนีบ ประตูตีกลับ ชนประตู ขังตัวเอง หรือประตูตกร่อง     [caption id="attachment_7513" align="aligncenter" width="600"] หากเป็นบานประตูที่ต้องเปิดค้างเป็นประจำ เช่น ประตูหน้าบ้าน ประตูหลังบ้าน ควรมีตัวหยุดประตูติดกับผนังหรือพื้น ป้องกันประตูตีกลับ โดยหากส่วนของประตูมีพื้นที่พอ อาจใช้แบบแม่เหล็กติดผนัง แต่ถ้าในบริเวณนั้นมีลมแรง ควรใช้แบบตัวขอเกี่ยว ก็จะมั่นคงกว่า[/caption]     [caption id="attachment_7515" align="aligncenter" width="759"] โช๊กอัพเป็นอุปกรณ์ช่วยกันประตูหนีบมือและป้องกันการเกิดเสียงดังรบกวนได้ดี เหมาะกับส่วนที่ใช้งานประจำ นื่องจากออปชันการิตั้งตั้งและออปชันการปรับตั้งที่ยืดหยุ่น โช้คอัพประตูรุ่นนี้จึงเข้ากับประตูประเภทต่าง ๆ และเสริมรูปลักษณ์ให้สวยงามได้[/caption]     [caption id="attachment_7516" align="aligncenter" width="760"] สำหรับประตูตรงส่วนทางเดินที่มักใช้เข้า-ออกทั้งสองทาง ควรมีช่องโปร่งให้เห็นได้บ้าง...

Read More

มีหลายปัญหาเรื่องบ้านอากาศร้อนๆอย่างงี้ยิ่งทำให้บ้านร้อนจัด ด้วยเหตุว่าหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก ท่านใดประสบเจอกับปัญหาเดียวกัน แบ่งปันการจัดการปัญหาบ้าง เกิดเรื่องที่คนจำนวนไม่น้อยหาทางจัดการกับปัญหาแล้วก็ถามไถ่เข้ามากันมาก ว่าบ้านเบือนหน้าทางทิศตะวันตก โดนแดดยามบ่ายส่องโดนห้องต่างๆข้างในบ้าน ทำให้บ้านร้อน จะมีทางแก้ไขเช่นไร ซึ่งพวกเรามีคำเสนอแนะมาฝากกันครับผม [caption id="attachment_7491" align="aligncenter" width="612"] ฟาซาด (Facade) ถูกออกแบบให้มีหน้าที่ช่วยการควบคุมการรั่วไหลของอากาศ ควบคุมความชื้น ช่วยกันไฟ ช่วยลดความร้อนที่จะเข้ามาสู่ภายในอาคาร และช่วยควบคุมแสงสว่างจากภายนอก[/caption] ทำระแนงไม้บังแดดแล้วก็ฟาซาด [caption id="attachment_7494" align="aligncenter" width="550"] ระแนงไม้ คือ ที่ทำจากไม้จะเรียกว่า ไม้ระแนง หรือระแนงไม้ ไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำระแนงส่วนใหญ่จะเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่นไม้เต็ง ,ไม้แดง ระแนงไม้มักจะใช้ในการตกแต่งพื้นที่ส่วนหลังคา ,แผงระแนงกันแดด[/caption]   โดยเว้นระยะห่างจากตัวบ้านพอเหมาะพอควร เพื่อสามารถระบายลมได้ ป้องกันแสงแดด กันสาด มีส่วนช่วยให้บ้านเย็น เนื่องจากคุ้มครองแดดที่ส่องเข้ามาบ้านโดยตรง ซึ่งป้องกันแสงแดดหรือกันสาดก็มีให้เลือกนานาประการแบบ ถ้าหากเลือกที่เหมาะสมกับบ้านก็จะเสริมให้บ้านดูดีขึ้นมาได้ : เลือกแบบหลังคากันสาด กันสาดผ้าใบสำหรับกันร้อนให้บ้าน   ระเบียง เฉียง เฉลียง อีกทั้งด้านล่างและก็ข้างบนของบ้าน ถ้ามีหลังคาหุ้มนอกเหนือจากที่จะทำให้ได้เรื่องใช้สอยสุดกำลัง ช่วยในการป้องกันแดดแล้วก็ฝนแล้ว ยังส่งผลให้กำเนิดร่มเงากับตัวบ้านได้อย่างยิ่ง ช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้นอีกระดับ รอบๆที่โดนความร้อนหรือมีความร้อนสะสมสูงที่สุดเป็นรอบๆใต้หลังคา ควรจะทำช่องระบายความร้อนออกตรงรอบๆชายคาให้มากมายเข้าไว้ การต่อว่าดตั้งฉนวนกันความร้อนในรอบๆที่โดนความร้อนมากมายๆก็สามารถช่วยได้ แม้กระนั้นจำเป็นต้องพิจารณาถึงงบประมาณที่พวกเรามี ความสบายสำหรับในการจัดตั้ง และก็ความงามด้วย หลบหลีกการเทลานคอนกรีต ด้วยเหตุว่าเป็นตัวการเก็บความร้อนรวมทั้งพัดพาความร้อนเข้าบ้านอีกด้วย ถ้าต้องเทคอนกรีต ชี้แนะให้ทดลองใช้บล็อกสนามที่มีรูกึ่งกลางแทนจะดีมากกว่า เพื่อดินคลายความร้อนออกมาได้ สร้างพื้นดินให้เย็น โดยการปลูกพืชคลุมดิน อย่างเช่น...

Read More
ร้านผ้าม่าน โดย Curtainandbeyond Group เป็นบริษัทผ้าม่านที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ยินดีให้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับแบบผ้าม่านเช่น ม่านม้วน, ม่านจีบ, ม่านแป๊ป, ม่านตาไก่, ม่านพับ, ม่านหลุยส์, ม่านปรับแสง, ฉากกั้นห้อง, วอลเปเปอร์ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบและยังมีบริการรับติดตั้งผ้าม่านด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ได้ทำงานอย่างถูกต้องและได้ประสิทธิภาพรวมผ้าม่านหลากหลายสไตล์ สามารถสั่งทำผ้าม่านได้ตามความต้องการเหมาะสมกับการใช้งานเกี่ยวกับเราและยังรับตกแต่งภายในให้บ้านของของคุณอย่างครบวงจร